#1006

*พระสมเด็จ จักรพรรดิ์ แห่ง พระเครื่อง เนื้อผง+พระกริ่ง ปวเรศ จักรพรรดิ์ แห่งพระกริ่งสยาม เนื้อโลหะ

พระสมเด็จ หลังพระกริ่ง ปวเรศ เปียกทอง กริ่งดัง ขนาดพระสมเด็จ 50X36X17มิลลิเมตร

พระสมเด็จ มวลสารโกเด ฝัง พระกริ่ง ปวเรศ พิมพ์สมบูรณ์ พูนสุข แต่ง สวย งาม นิยม

**จากบทความ พระสมเด็จ ฝังพระกริ่ง พื้นหลัง สีแดง มิใช่ พระกริ่ง องค์ ในบทความ และเจ้าของบทความ มิได้มีส่วน รู้เห็น ในการ ซื้อ-ขาย พระสมเด็จ ฝัง พระกริ่ง

-----------------------------------------------------------------------------

จากบทความ

Chok Permpool Gallery Phra Somdej Phra Somdej Toh

Public

Aug 13, 2015

พระกริ่งปวเรศทองคำ สมบูรณ์พูนสุข ๒๔๓๔
นำเข้าตรวจ ด้วยเครื่อง XRF(X-Ray Fluoresence)
ผลสรุปการตรวจ Inductively Couple Plasma Optical Emission Spectroscopy (ICP-OES) และ X-Ray Fluoresence ในการตรวจสอบความบริสุทธิ์
การตรวจสอบด้วยเทคนิค X-Ray Fluorescenceอน
Resuits of analysis : (%)
น้ำหนักองค์พระ 26.6 กรัม(g.) ขนาด สูง 2.7 cm. ฐานกว้าง 2 cm. ฐานสูง 1.5 cm.
Au(ค่าทองคำ) 2.271 / 2.256
Pt (แพททินั่ม) 0.252 / 0.081
Pd(แพลลิเดียม) 0.023 / 0.009
Ag(เงิน) 0.035 / 0.034
Ni (นิเกิล) 0.008 / 0.016
Cu(ทองแดง) 71.69 / 70.43
Zn(สังกะสี) 26.09 / 27.22
Co(โคบอนต์) 0.003 / 0.009
Cr(โครเมียม) 0.018 / 0.035
In(อินเดียม) 0.010 / 0.002
Ge(เจอร์มิเดียม) 0.133 / 0.138
Sn(ดีบุก) 0.017 / 0.020
Pb(ตะกั่ว) 0.014 / 0.028
Fe(เหล็ก) 0.024 / 0.025
Ru(รูทีเนียม) 0.014 / 0.006
Rh(โรเดียม) 0.002 / 0.000
พระกริ่งปวเรศ สายวัง สร้างวาระไหนดีที่สุด
พระกริ่งปวเรศ ที่ผู้เขียนรวบรวมพบทั้งหมด ณ ขณะนี้มีทั้งหมดสร้าง 6 ยุค ตั้งแต่ พ.ศ.2382 - พ.ศ. 2434 ถ้าหากตั้งคำถามว่า "เก็บสะสมพระกริ่งปวเรศ (สายวัง) สร้างวาระไหนดีที่สุด" ขอแยกรายละเอียดดังนี้
1. พระกริ่งปวเรศที่สร้างของแท้ก็คือของแท้ไม่สามารถที่จะสร้างเพิ่มขึ้นได้
- จำนวนการสร้างจำกัดด้วยจำนวนที่แน่นอน
- พระกริ่งปวเรศ พิมพ์สมบูรณ์พูนสุข เป็นพิมพ์ที่สร้างมากที่สุด
- พระกริ่งปวเรศ พิมพ์สมบูรณ์พูนสุข โลหะธาตุที่สร้างมี (เนื้อทอง เนื้อเงิน และเนื้อนวโลหะ)
- และ พระกริ่งปวเรศ พิมพ์สมบูรณ์พูนสุข เริ่มสร้างปี พ.ศ. 2394 พัฒนาแม่พิมพ์เก่าจนกระทั่งมีรูปทรงและโลหะที่งดงาม หล่อเป็นองค์พระกริ่งฯพิมพ์หน้าตาและรูปร่างคล้ายกันมากในยุคของรัชกาลที่ 4 พ.ศ.2394 ถึง ยุครัชกาลที่ 5 พ.ศ.2434 รวมระยะเวลายาวนานถึง 41 ปี
2. พระกริ่งปวเรศ เมื่อจำกัดด้วยจำนวนการสร้าง(ของแท้) ขอให้พบของจริงแท้สักองค์มีเงิน มั่นใจศรัทธา พระฯจะเลือกอยู่กับผู้ครอบครองไม่ใช่มีเงินก็จะซื้อหาได้ อยู่ที่ความเชื่อศรัทธา ผู้เขียนมั่นใจว่ามีหลายต่อหลายท่านได้ครอบครองไปในราคาหลักร้อยและหลักพัน ทำไมถึงราคาถูก จะไม่ถูกได้อย่างไร เซียนตำรามั่วแต่ยึดตำราที่ไม่มีตัวตน พระฯออกสู่ตลาดมากที่สุดนับเวลาเกือบ 30 ปี ตำราไม่ได้เขียนเอาไว้จึงไม่มีเซียนเล่นหา ได้พบปะพูดคุยกับบุคคลหลายๆกลุ่ม ทำให้ทราบว่ามีบางกลุ่มค่อยๆเก็บเงียบมาหลายปี ได้พระกริ่งปวเรศ สายวัง ไปครอบครองจำนวนหนึ่ง ให้เป็นที่อิจฉา จากเริ่มแรกที่และมีผู้เก็บสะสม และมีผู้ซื้อโทรมาคุยผู้เขียนได้ซื้อพระกริ่งปวเรศ พิมพ์สมบูรณ์พูนสุข พ.ศ.2434 ไปที่เลข 6 หลักเมื่อปีที่แล้ว(พ.ศ.2553) และสุดท้ายมีผู้ขายท่านหนึ่งคุยกับผู้เขียนได้ขายพระกริ่งปวเรศ พิมพ์สมบูรณ์พูนสุข พ.ศ.2434 ไปสูงถึงเกือบ 8 หลัก ดังนั้นราคาการซื้อขายอยู่ที่ผู้ซื้อกับผู้ขายจะมีกำลังทรัพย์มากมีความศรัทธาก็จะเช่าซื้อในราคาที่สูง หากผู้ซื้อมีทรัพย์น้อยโชคดีก็ได้ราคาที่ไม่สูง ซึ่งราคาไม่สูงเกิดจากเซียนตำราทั้งสิ้น ทำให้ตลาดไม่รู้จักจึงเป็นโอกาสของผู้เชื่อและศรัทธา ว่าราคาหลักหมื่นถึงหลักแสนอนาคตอันใกล้นี้จะไม่มีราคานี้ในท้องตลาดอีกต่อไป เนื่องจากพระกริ่งปวเรศ รุ่น 1 เฉพาะของแท้กำลังจะหมดไปจากตลาดโดยสิ้นเชิง ใครได้ครอบครองไว้ต่างก็หวง ราคาที่เหมาะสมจะขยับมาอยู่ที่เลข 7 หลัก สูงสุดราคาอยู่ที่ 8 หลักเหมือนเดิม
3. พระกริ่งปวเรศ สายวัง โดยเฉพาะพิมพ์สมบูรณ์พูนสุข สร้างไล่มารวมยาวนานถึง 41 ปี วิเคราะห์ด้วยแนวคิดง่ายๆ รุ่นไหน พ.ศ.ไหนน่าสะสมมากที่สุดดังต่อไปนี้
พระกริ่งปวเรศ แต่ละรุ่น ที่ผู้เขียนพบ โดยเฉพาะ วาระที่สร้างใน พ.ศ.และวาระต่างๆกัน มีพุทธนุภาพที่ไม่เหมือนกัน อีกทั้งเม็ดกริ่งที่บรรจุอยู่ภายในฐานองค์พระกริ่งปวเรศบางรุ่น เป็นเม็ดกริ่งเหล็กไหล ซึ่งคนในสมัยโบราณเสาะแสวงเล่นหากัน ที่เคยมีบันทึกราคาซื้อขายเหล็กไหลสูงถึงนับ 100 ล้านบาทในอดีต เนื้อหามวลสารของโลหะธาตุที่พัฒนาจากการสร้าง พ.ศ. แรกๆถึง พ.ศ.2434 ปรับสูตรส่วนผสมการสร้างพัฒนาแตกต่างกันไป บางรุ่นบางวาระเป็นโลหะธาตุชนิดพิเศษ พระกริ่งปวเรศ พิมพ์สมบูรณ์พูนสุข และพิมพ์อื่นๆ น่าสะสมหรือไม่ ตอบว่าดีทุก พ.ศ. ทุกวาระ
--- แต่ที่สุดยอดในมุมมองการวิเคราะห์ของผู้เขียนหนึ่งในดวงใจต้องยกให้ พระกริ่งปวเรศ รุ่นญาณต้น พ.ศ.2382
--- รองลงมาเป็นพระกริ่งปวเรศ พ.ศ.2404
--- และตามาด้วยพระกริ่งปวเรศ พิมพ์สมบูรณ์พูนสุข สร้างวาระ พ.ศ. 2394, 2397, 2398, 2410 และ พ.ศ.2411
--- ส่วนพระกริ่งปวเรศ พิมพ์สมบูรณ์พูนสุข พ.ศ.2434 ไม่ทันเจ้าประคุณสมเด็จพุฒาจารย์โต พรหมรังสี วัดระฆัง(สมเด็จโต) ผู้เขียนให้ความสำคัญสุดท้าย
พระกริ่ง เป็น พระปฏิมาพระไภษัชยคุรุพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าองค์นี้เป็นที่นิยมนับถือของปวงพุทธศาสนิกชน ฝ่ายลิทธิมหายาน ยิ่งนัก ปรากฏพระประวัติมาในพระสูตรสันสกฤตสูตรหนึ่ง คือ "พระพุทธเจ้าไภษัชยคุรุไวฑูรยประภาราชามูลประณิธานสูตร" แปลเป็นภาษาจีนในราวพุทธศตวรรษที่ 10 "พระกริ่ง" นั้นเป็นพระเครื่องที่ได้แบบมาจากทิเบต หมายถึงพระพุทธเจ้าไภษัชยคุรุ ทรงเป็นครูในด้านเภสัช คือ การรักษาพยาบาล จึงนิยมใช้อธิษฐานแช่น้ำทำเป็นน้ำพระพุทธมนต์แล้วดื่มกินเชื่อว่ารักษาโรค ภัยไข้เจ็บแม้แต่อหิวาตกโรคในอดีตก็เคยรักษาได้
พระเปียกทอง กะไหล่ทอง ชุบทอง เป็นอย่างไร
เปียกทองของแท้มีวรรณะสีผิวเป็นเช่นไร? องค์นี้เป็นพระประเภทที่เรียกว่าเปียกทองคำ หรือ ชุบทองคำ หรือ กะไหล่ทอง อันที่จริงแล้วช่างหลวง ได้ใช้เทคนิคการเคลือบสีลงบนโลหะ ซึ่งภาษาสามัญเรียกกันว่า “แบบหน้าแป้ง” ศิลปะแบบนี้ได้ส่งอิทธิพลทางศิลปะเริ่มในสมัยรัชกาลที่ 3 สืบสานฝีมือต่อถึงสมัยรัชกาลที่ 4 องค์นี้ภายในเนื้อกลวงจึงมีน้ำหนักเบา มองผ่านๆคิดว่าเป็นพระ สมัยใหม่ เห็นสีผิวเนื้อเปียกทองคำ(ชุบทองคำ)
สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ วัดบวรนิเวศวิหาร สมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ ๑๓ เคยมีดำรัสถึงเรื่องพระกริ่งนี้ว่า "ตำราการสร้างพระกริ่งและตำรามงคลโลหะ ที่มีมาแต่โบราณสืบค้นได้ถึงสมัยสมเด็จพระพนรัตนวัดป่าแก้ว" โดยโปรดให้สร้าง "พระกริ่งปวเรศ" ขึ้น มีพระพุทธรูปลักษณะปางหมอยา เป็นชื่อเรียกพระกริ่งที่สร้างโดยฝีมือของช่างสิบหมู่ หรือช่างหลวง ตั้งแต่ พ.ศ.๒๓๘๒-พ.ศ.๒๔๓๔
ในอาณาจักรพระเครื่องรางที่นับถือว่า "พระกริ่งปวเรศ" มีอานุภาพขลังศักดิ์สิทธิ์เป็นที่รู้จักแพร่หลายในหมู่นักนิยมพระเครื่องตั้งแต่ในสมัยรัชกาลที่ ๔ สืบมาถึงปัจจุบัน มีราคาซื้อขายสูงที่สุดในประเภทพระโลหะ การสร้างมีพิธีพระพุทธาภิเษก และมีพิธีโหร พิธีพราหมณ์ และพิธีบวงสรวงอัญเชิญเทพเทวาพระเบื้องบนมาช่วยร่วมพิธีกรรมต่างๆ
"พระกริ่งปวเรศ" เป็นสุดยอดแห่งพระเครื่องเนื้อโลหะที่มีมูลค่า และความนิยมสูงสุด ที่ทุกคนไม่ว่าจะเป็นนักสะสมมือใหม่ไปจนถึงนักสะสมมือระดับเซียน ต่างก็ต้องการมีไว้ครอบครองบูชา ด้วยความสวยงามตามพุทธศิลป์ ของช่างศิลป์ในสมัยต้นรัตนโกสินทร์ และด้วยจำนวนที่มีน้อย จึงเป็นที่ต้องการของนักสะสมหลายๆ คน ซึ่งโดยวัตถุประสงค์ของการสร้างพระชุดนี้ถึงจะมีการสร้างกันหลายวาระ แต่ก็ไม่มากนัก เป็นการสร้างเพื่อมอบสำหรับราชนิกูล และข้าราชการชั้นสูงเท่านั้น จึงทำให้ไม่ค่อยแพร่หลาย และหายากมากในปัจจุบัน
ทั้งนี้ พ.อ.ผจญ กิตติประวัติ หรือ ตรียัมปวาย ผู้บัญญัติศัพท์เบญจภาคีอันโด่ง ได้กล่าวถึงเรื่องพระกริ่งปวเรศไว้ดังนี้ "พระกริ่งปวเรศที่คนโบราณเขานิยมกันนั้น มีอยู่เนื้อเดียว คือเนื้อนวโลหะผิวกลับดำ เมื่อขัดเนื้อในจะเป็นสีจำปาเทศ และเมื่อทิ้งไว้ถูกกับอากาศจะกลับดำอีกครั้งหนึ่งในเวลาไม่นาน เนื้อนวโลหะ ประกอบไปด้วยโลหะ ๙ ชนิด ได้แก่ ทองคำ เงิน ทองแดง จ้าวน้ำเงิน (พลวง) เหล็กละลายตัว ชิน (ตะกั่ว+ดีบุก) ตะกั่วน้ำนม ปรอท สังกะสี"
สำหรับคติความเชื่อในอดีตนั้น ทั้งพระกริ่งสำนักวัดบวรฯ สำนักวัดสุทัศน์ฯ เชื่อกันว่า อาราธนาทำน้ำมนต์ เมื่อเวลาเรารู้สึกดวงไม่ดี มีเคราะห์ หรือเจ็บป่วย นำพระกริ่งปวเรศ หรือพระกริ่ง (องค์แทนพระพุทธเจ้าไภษัชยคุรุไวฑูรย์ประภาสพุทธเจ้า) อาราธนาบารมีของพระองค์ท่านทำน้ำพระพุทธมนต์ ดื่ม รด อาบ กินเพื่อความสวัสดี มีชัยปราศจากโรคภัยและกำจัดปัดเป่าอัปมงคล อันตราย ภัยพิบัติต่างๆ
โดยคติความเชื่อดังกล่าวสอดคล้องกับหนังสือตำนานพุทธเจดีย์ว่า พระกริ่งที่สร้างขึ้นทุกองค์เป็นพระไภษัชยคุรุไวฑูรยประภาตถาคตทั้งสิ้น และความเชื่อที่ว่าพระไภษัชยคุรุนั้น มีอำนาจพุทธานุภาพทำให้ผู้ที่บูชาหายจากความเจ็บป่วยไข้และพ้นภัยจากอันตรายทั้งปวง ช่วยขจัดภยันตรายต่างๆ และให้ผู้ที่พกพาติดตัวระหว่างเดินทางปลอดภัยจากอันตรายทั้งปวงจากที่พกติดตัว
http://dr-natachai.blogspot.com/2011_01_01_archive.html
https://plus.google.com/10709642368611609…/posts/iA2FBc2E9JK
https://plus.google.com/10709642368611609…/posts/GaT69HLVVvK
http://www.komchadluek.net/detail/20140922/192551.html
http://www.komchadluek.net/detail/20140922/192551.html
http://www.amuletsale4u.com/?cid=1230890

Translate