พระแก้วมรกรต ทรงฤดูหนาว สีแดง พระสมเด็จ วัดระฆัง พิมพ์พระแก้วมรกรต ทรงเครื่องฤดูหนาว พ.ศ.๒๔๐๘
รายละเอียด :
6293 หยดน้ำยา หาอายุพระโดยประมาณ
*****************************
ขอขอบคุณ เจ้าของบทความ
คุณ โชค เพิ่มพูน
มวลสารที่ใช้ผสมเป็นเนื้อพระของพระสมเด็จโต ประกอบด้วย
◾ผงพุทธคุณทั้ง ๕ อันได้แก่
◾ผงอทธิเจ มีอานุภาพในทางเมตตา มหานิยม
◾ผงปัตถมัง มีอานุภาพในทางคงกระพันชาตรี
◾ผงตรีนิสิงเห มีอานุภาพในทางมหาเสน่ห์
◾ผงพุทธคุณ มีอานุภาพในทางแคล้วคลาด เมตตามหานิยม
◾ผงมหาราช มีอานุภาพในทางมหาอำนาจ เสริมบารมี
ผงเหล่านี้สมเด็จโตเก็บรวบรวมจากผงปูนดินสอ (ดินสอพอง) ที่ท่านเขียนอักขระ ยันต์คาถาลงบนแผ่นกระดานชนวน และได้บริกรรมท่องคาถาในขณะที่ท่านเขียนจนจบแล้ว ก็จะลบอักขระ เลขยันต์ต่างๆ แล้วเริ่มต้นเขียนใหม่เช่นนี้ไปเรื่อยๆ ผงปูนที่ได้จากการลบกระดานชนวน จะเก็บสะสมไว้จนมากพอ ก็จะนำมาเป็นมวลสารหลักของการสร้างพระสมเด็จ
◾ไม้มงคลและว่านต่างๆ (ในบางพิมพ์) ได้แก่ ดอกสวาท ดอกกาหลง ดอกรักซ้อน ดอกกาฝากรัก ดอกชัยพฤกษ์ ดอกว่านนกคุ้ม ดอกว่านนางล้อม ดอกว่านเสน่ห์จันทน์ขาว , เสน่ห์จันทน์แดง ดอกว่านนางกวัก ว่านพระพุทธเจ้าหลวง ใบพลูร่วมใจ ใบพลูสองหาง ผงเกสรบัวทั้ง ๕ และเกษร ๑o๘◾ดินอาถรรพ์ ได้แก่ดินเจ็ดโป่ง ดินเจ็ดป่า ดินเจ็ดท่า ดินเจ็ดสระ ดินหลักเมือง ดินตะไคร่เจดีย์ ดินตะไคร่รอบโบสถ์ ดินตะไคร่ใบเสมา ดินกระแจะปรุงหอม
◾เปลือกหอย นำมาเผาและตำบดเป็นผงเนื้อปูน และผงเปลือกหอยที่ไม่ผ่านการเผา
◾ใบลานคัมภีร์ที่ชำรุด นำมาเผาและตำบดเป็นผง
◾อาหารและข้าวสุกที่แบ่งมาจากการฉัน ท่านจะนำไปตากแห้ง แล้วนำมาตำจนเป็นเม็ดเล็กๆ กล้วยน้ำหว้าสุก กล้วยหอมจันทน์ (รวมถึงผลขนุนสุก ที่ทำให้เนื้อพระมีสีอมเหลือง) ซึ่งจะนำมาตำรวมกับมวลสารต่าง ๆ เพื่อให้เนื้อพระมีความเหนียวเกาะติดกันในขณะที่กดพิมพ์พระ
◾น้ำพุทธมนต์จากแหล่งต่างๆ
◾น้ำผึ้ง น้ำอ้อยเคี่ยวจนเหนียว หรือน้ำมันตังอิ๊วในการสร้างพระสมเด็จยุคหลัง
◾เกสรและดอกไม้บูชาตากแห้ง นำมาตำบดเป็นผง
◾ผงถ่านที่ได้จากการเผาแม่พิมพ์ไม้ที่แตกชำรุด ผงถ่านก้านธูปและเถ้าธูปบูชาพระ
◾ผงตะไบพระรูปหล่อต่างๆ (ทองแดง เงิน ทอง) ผงเหล็กไหล
◾ผงที่ได้จากการตำบดพระดินเผา จากกรุกำแพงเพชรที่ชำรุดแตกหัก
◾พระธาตุแก้ว ขนาดเม็ดเล็กและเป็นผงพระธาตุ มีทั้งเนื้อแก้วใส สีขาวขุ่น สีอำพัน สีแดงใส สีแดงเข้ม
เนื้อพระสมเด็จ
เนื้อพระสมเด็จ หมายถึงส่วนประกอบหลัก และสีขององค์พระ (นอกเหนือจากผงวิเศษทั้ง ๕ และผงปูนเปลือกหอยเผา ที่ต้องมีทุกองค์) จัดแบ่งได้ดังนี้
◾เนื้อสีเขียวก้านมะลิ (ขาวอมเขียว) ซึ่งมีส่วนผสมของตะไคร่จากใบเสมา ผงใบลาน
◾เนื้อสีขาวอมเหลือง (สีดอกจำปา) ซึ่งมีส่วนผสมของข้าวสุก ผงเกสร อาจจะมีกล้วยหอมจันทน์ ขนุนเพิ่มด้วย
◾เนื้อสีขาวตุ่น (ขาวอมเทา) ซึ่งมีส่วนผสมของข้าวสุก ผงเกสร ผงเถ้าใบลาน
◾เนื้อสีขาวด้าน ซึ่งมีส่วนผสมของผงปูนเปลือกหอยที่ไม่เผา ทำให้เห็นเป็นจุดวาวทั่วองค์พระ
◾เนื้อสีขาวนวล ซึ่งมีส่วนผสมอื่น ๆ ที่ไม่ทำให้เนื้อปูนเปลี่ยนสีไปจากเดิม (รวมถึงเนื้อพระบางขุนพรหม ที่แก่ปูนเปลือกหอย และมีมวลสารน้อย)
◾เนื้อสีน้ำตาลไหม้ ผิวมะกอกสุก ซึ่งมีส่วนผสมของผงใบลานไหม้ และเกสร ๑o๘ จำนวนมาก ทำขึ้นครั้งเดียวขณะเป็นพระราชปัญญาภรณ์
◾เนื้อสีน้ำตาลอ่อน มีส่วนผสมของน้ำผึ้งเพิ่ม (พิมพ์ฐานแซม)
◾เนื้อผงใบลาน สีเทาดำ และสีน้ำตาลดำ ซึ่งมีขี้เถ้าใบลานทำให้เกิดสีเทา และผงใบลานที่ไหม้ทำให้เกิดสีน้ำตาล
◾เนื้อสีแดงกวนอู ซึ่งมีส่วนผสมของว่านสบู่เลือดเพิ่ม ทำครั้งเดียวเพื่อแจกทหารไปปราบเงี้ยว พ.ศ. ๒๔o๒ สีชมพูแดง มีเม็ดขาวกระจายทั่วทั้งองค์
◾เนื้อสีผงแป้งกระแจะเจิมหน้า ซึ่งมีส่วนผสมของเนื้อว่านต่าง ๆ และเพิ่มน้ำอ้อยเคี่ยว สีขาวอมเทา
◾เนื้อผงดำ ซึ่งใช้ถ่านที่ได้จากการเผาแม่พิมพ์ไม้ที่ชำรุดตำผสมเป็นหลัก จะเห็นเม็ดขาวกระจายทั่วทั้งองค์ (พิมพ์ใหญ่ และพิมพ์ฐานแซม)
◾เนื้อเศษอาหาร จะใช้ข้าวสุกตำผสมกับกล้วยและน้ำอ้อยเคี่ยว ทำขึ้นสองครั้ง( หลายพิมพ์) มีสีดอกจำปา
พระสมเด็จพิมพ์ใหญ่ จัดแบ่งประเภทตามแม่พิมพ์ได้ ดังนี้
◾พิมพ์ชายจีวรบาง ชายจีวรเส้นเล็ก เป็นผืนบางระหว่างข้อศอก และหัวเข่าด้านซ้าย
◾พิมพ์ชายจีวรหนา ชายจีวรเส้นหนา ระหว่างข้อศอกและหัวเข่า ด้านซ้าย
◾พิมพ์ชายจีวรเส้นลวด ชายจีวรเส้นนูนเล็ก (เล็กกว่าเส้นบาง) ระหว่างข้อศอกและหัวเข่า ด้านซ้าย
ส่วนพิมพ์ที่มีเส้นผ้าทิพย์แซมอยู่ใต้ตัก ปัจจุบันจะเรียกว่า พิมพ์ใหญ่พระประธาน
2015-06-30
โทร: 0971297060
ราคา: 0 บาท
หมวดพระ: พระยอดนิยมทั่วไป-พระเบญจภาคี