จำนวนคนอ่านล่าสุด 1362 คน

พระสมเด็จ วัดระฆัง2หน้า พิมพ์หน้าโหนกอกครุฑ/หยดน้ำยาเช็คอายุพระ


พระสมเด็จ วัดระฆัง2หน้า พิมพ์หน้าโหนกอกครุฑ/หยดน้ำยาเช็คอายุพระ

พระสมเด็จ วัดระฆัง2หน้า พิมพ์หน้าโหนกอกครุฑ/หยดน้ำยาเช็คอายุพระ


รายละเอียด :

  7/0522.    

 พระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์หน้าโหนกอกครุฑ2หน้า/องค์พระในรูปไม่ใช่องค์ในบทความ

--------------------------------------------------------

Chok Permpool

ผู้ดูแล · 12 มกราคม

พระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์หน้าโหนกอกครุฑ การสมโภชวัดราชโอรส ("พระพุทธอนันตคุณอดุลญาณบพิตร"พระประธานในพระอุโบสถวัดราชโอรสเป็นพระพุทธรูปที่สร้างได้งดงามกว่าพระพุทธรูปองค์อื่นที่สร้างในสมัยเดียวกัน)ณ วันอาทิตย์ เดือน ๒ ขึ้น ๑๓ ค่ำ พ.ศ. ๒๓๗๔ 
(ตรงกับวันที่ ๑๕ มกราคม พ.ศ. ๒๓๗๔) 
วรรณะพุทธลักษณ์ลงรักปิดทอง ล่องชาด สัตตศิริ หลังเผนึกรียบและบันทึกลายกนกเครือเถาดอกโบตั๋น(โบตั๋นดอกโบตั๋นเป็นดอกไม้ที่นิยมใช้ในงานศิลปะมายาวนาน และหนึ่งในสัญลักษณ์ประจำชาติของจีน โดยถือเป็นดอกไม้แห่งจักรพรรดิและความร่ำรวย กับนิยมใช้ในเชิงสัญลักษณ์ในศิลปะจีนอีกด้วย เมื่อ ค.ศ.1903 ราชวงศ์ชิงประกาศให้โบตั๋นเป็นดอกไม้ประจำชาติ) พระสมเด็จนี้สร้างวาระปลายปีเถาะ พ.ศ. ๒๓๗๔ นั้น พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓ 
โปรดเกล้าฯ ให้มีการสมโภชวัดราชโอรส ซึ่งสถาปนาสำเร็จแล้ว พร้อมกับวัดอื่นๆ
วัดราชโอรสาราม วัดประจำรัชกาลที่ ๓ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว 
ปีมะเส็งในปี พ.ศ. ๒๓๖๔ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ กรมหมื่นเจษฎาบดินทร์เลิกกองทัพ 
เสด็จกลับพระนคร เมื่อราวเดือน ๖-๗ ในปีมะเส็งนั้น 
ครั้นเสด็จกลับถึงพระนครแล้ว ก็ทรงเริ่มปฏิสังขรณ์วัดจอมทองขึ้นใหม่ 
ทั้งวัดเหมือนสร้างใหม่ ได้เสด็จมาประทับคุมงานและตรวจตราการก่อสร้าง 
ด้วยพระองค์เองตลอดมา เสร็จแล้วได้ทูลเกล้าฯ ถวายเป็นพระอารามหลวง 
พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ ๒ 
โปรดเกล้าฯ พระราชทานนามใหม่ว่า ‘วัดราชโอรส’ 
หมายถึงว่าเป็นวัดที่พระราชโอรสทรงสถาปนา 
เพื่อเป็นเกียรติแก่พระราชโอรสซึ่งเป็นผู้บูรณปฏิสังขรณ์ 
ปลายปีเถาะ พ.ศ. ๒๓๗๔ นั้น พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓ 
โปรดเกล้าฯ ให้มีการสมโภชวัดราชโอรส ซึ่งสถาปนาสำเร็จแล้ว พร้อมกับวัดอื่นๆ เช่น 
วัดราชสิทธาราม วัดภคนีนาถ วัดโมลีโลกยาราม วัดอรุณราชวราราม วัดระฆังโฆสิตาราม 
วัดพระยาทำ วัดสุวรรณ และวัดสระเกศ ซึ่งวัดเหล่านี้ได้ทรงบูรณะใหม่ การยังไม่สำเร็จ 
แต่โปรดเกล้าฯ ให้สมโภชพร้อมกันเสียครั้งหนึ่งก่อน โดยมีหมายกำหนดการสรุปได้ดังนี้ 
ณ วันอาทิตย์ เดือน ๒ ขึ้น ๑๓ ค่ำ พ.ศ. ๒๓๗๔ 
(ตรงกับวันที่ ๑๕ มกราคม พ.ศ. ๒๓๗๔) 
ได้ถวายผ้าไตรจีวรแด่พระสงฆ์ที่เจริญพระพุทธมนต์ที่วัดราชโอรสาราม 
และพระสงฆ์ที่มาเจริญพระพุทธมนต์พระอารามอื่นทุกๆ พระอารามดังกล่าวข้างต้น 
โดยโปรดเกล้าฯ ให้มารับไตรจีวรที่วัดราชโอรสาราม 
รุ่งขึ้นวันจันทร์ เดือน ๒ ขึ้น ๑๔ ค่ำ 
(ตรงกับวันที่ ๑๖ มกราคม พ.ศ. ๒๓๗๔) 
เป็นวันที่พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์เย็น สมโภชพร้อมกัน 
มีมหกรรมทุกพระอาราม เฉพาะที่วัดราชโอรสารามโปรดเกล้าฯ 
ให้ปลูกพลับพลาที่ริมคลองหน้าวัด 
และโปรดเกล้าฯ ให้มีโขนโรงใหญ่ชักรอกตรงหน้าพลับพลาด้วย 
เกณฑ์เรือประพาสข้าราชการร้องสักวาดอกสร้อย ที่บริเวณเกาะหน้าพลับพลา 
ครั้นตกเวลาเย็น ได้เสด็จพระราชดำเนินทางชลมารคประทับเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ 
เป็นกระบวนพยุหยาตรา มีเรือกระบวนรูปสัตว์ 
มาประทับทรงสดับพระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ทั้ง ๓ วัน 
ที่เป็นกำหนดงานสมโภชพระอาราม 
พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓ 
ทรงมีพระราชศรัทธาอย่างมั่นคงในพระบวรพุทธศาสนาเป็นอย่างยิ่ง 
ได้ทรงสร้างและปฏิสังขรณ์พระอารามไว้เป็นจำนวนมากในรัชกาลของพระองค์ 
ถึงกับกล่าวกันว่า ในรัชกาลที่ ๓ ถ้าใครใจบุญชอบสร้างวัดวาอารามก็เป็นคนโปรด 
แต่วัดที่ทรงสร้างด้วยฝีมือประณีต มีแบบอย่างศิลปกรรมที่แปลกและงดงามเป็นพิเศษ 
จนเป็นที่เลื่องลือกล่าวขวัญกันมาก เห็นจะไม่มีวัดไหนเสมอ วัดราชโอรสาราม 
สถาปัตยกรรมและสิ่งก่อสร้างต่างๆ ในวัดราชโอรสแห่งนี้ 
จะเป็นศิลปะแบบจีน ซึ่งเป็นศิลปะแบบ “พระราชนิยม” ของรัชกาลที่ ๓ 
เกือบแทบทั้งหมด แต่ก็ยังคงคุณค่าของความเป็นวัดไทยไว้ได้อย่างงดงาม 
และถือเป็นมรดกอันสำคัญชิ้นหนึ่งของแผ่นดินไทย 
ศิลปกรรมทุกชิ้นในวัดแห่งนี้ล้วนสร้างขึ้นด้วยฝีมือประณีตบรรจงจริงๆ 
เมื่อสร้างเสร็จใหม่ๆ ความงดงามของวัดราชโอรสารามที่ได้ทรงสร้างขึ้นนั้น 
เป็นที่เลื่องลือกันมาก มีชาวไทยและชาวต่างประเทศลงเรือมาชมกันมิได้ขาด 
นายจอห์น ครอฟอร์ด ราชทูตอังกฤษ ซึ่งได้เดินทางเข้ามาเจริญสัมพันธไมตรี 
ในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ ๒ เมื่อปี พ.ศ. ๒๓๖๕ 
ได้เขียนชมวัดราชโอรสาราม และยกย่องชมเชยฝีมือการสร้างไว้ว่างดงามยิ่งนัก 
พร้อมทั้งได้ออกความเห็นไว้ว่า 
“ที่วัดนี้สร้างขึ้นได้อย่างงดงามได้เช่นนี้ 
คงเป็นเพราะในกรมผู้ทรงเป็นเจ้าของวัดนั้น ทรงว่าการกรมท่า 
ทรงได้รับผลประโยชน์จากการติดต่อกับพ่อค้าชาวจีนอย่างกว้างขวาง” 
แม้แต่ ท่านสุนทรภู่ กวีเอกสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์และกวีเอกของโลก 
เดินทางผ่านมาเห็นวัดราชโอรสารามที่สร้างขึ้นไว้ด้วยศิลปะที่แปลกและงดงามยิ่งนัก 
https://plus.google.com/…/10709642368611…/posts/FdZuU1YnTH8…

โทร: 0953395801

ราคา: 0 บาท

หมวดพระ: พระยอดนิยมทั่วไป-พระสมเด็จ

0 ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบ ไม่สามารถโพสบทความหรือแสดงความคิดเห็นได้ เข้าสู่ระบบ